วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เอาไว้อ่านเพื่อเตือนตัวเอง


บทความนี้ผมจะขอนำเอาแนวคิดสำคัญ 5 ข้อสำหรับการพัฒนาเพื่อเป็นเทรดเดอร์ที่ดี ซึ่งถูกถ่ายทอดไว้ในหนังสือ One Good Trade ของคุณ Mike Bellafiore  มาสรุปให้พวกเราได้ลองเรียนรู้กันครับ

1. เตรียมตัวให้พร้อม

Mike Bellafiore สอนให้มองว่าการเทรดนั้นเป็นงานไม่ใช่กิจกรรมอดิเรก (แม้คุณจะนั่งเทรดอยู่ในห้องนอนที่บ้านก็ตาม) ดังนั้นเทรดเดอร์ต้องจริงจัง เตรียมตัวให้พร้อมมากที่สุด ทั้งการหาข้อมูล การทำความเข้าใจแผนระบบเทรด เตรียมร่างกาย และจิตใจ เพื่อรับมือกับสิ่งที่จะเกิดในตลาด แน่นอนว่าจะมีสิ่งที่เราคาดไม่ถึง

นอกจากนั้นเทรดเดอร์ต้องเตรียมรับมือกับความผิดพลาด ความผิดหวังล้มเหลว เพราะนั้นคือส่วนหนึ่งของเกมส์ สิ่งสำคัญคือการรับมือกับมัน ใช้ประโยชน์เรียนรู้จากสถานการณ์ที่เกิด แล้วก้าวต่อไป

2. ทำงานหนัก

เทรดเดอร์เป็นงานที่มีผลตอบแทนสูง รายได้สูง แม้ไม่ต้องทำงานหนัก 100 ชั่วโมงต่อส้ปดาห์แบบบางอาชีพหรือไม่ต้องหักโหมทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อทำแต้มเอาใจเจ้านาย  แต่ในระยะแรกของการฝึกฝนเพื่อพัฒนาตัวเอง เทรดเดอร์มือใหม่ก็จำเป็นต้องทุ่มเท ทำงานหนักโดยเฉพาะเรื่องการศึกษาหาความรู้ เช่นการอ่านหนังสือ การติดตามข่าวสาร รวมไปถึงการฝึกฝนการวิเคราะห์พฤติกรรมข้อมูลราคาของสินค้า เพื่อให้เกิดทักษะ เกิดการสั่งสมความรู้ที่มากเพียงพอในการพัฒนาต่อยอดต่อไป

3. มีความอดทน

ตลาดหุ้นมีความผันผวนเสมอเป็นธรรมชาติ เทรดเดอร์ต้องเทรดบนราคาที่เปลี่ยนแปลงไปมาได้ตลอดเวลา ดังนั้นคุณสมบติเรื่องความอดทนจำเป็นต้องมีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์การเทรดที่ดี บางกรณีอาจจะอดทนเพื่อรอโอกาส รอจังหวะที่ดีที่คุ้มค่ากับการเสี่ยง ถ้าเทรดเดอร์มีความอดทนต่ำ รอไม่เป็นการรีบเข้าตามอารมณ์ ตามกระแส สุดท้ายก็ผิดพลาด

เช่นเดียวกันแม้มองทิศทางราคาถูก เปิดสถานะได้เข้าถูกทางได้กำไรแต่ถ้าอดทนรอไม่เป็น ใจไม่นิ่งแกว่งไปตามราคาที่ผันผวนระหว่างวัน สุดท้ายไม่เทรดตามแผน  รีบออก ถือสถานะได้ไม่นาน แบบนี้ก็เสียโอกาสและทำให้ไม่ประสบความสำเร็จได้เช่นกัน

4. ต้องมีแผนการเทรด

การเทรดหรือการเก็งกำไร ไม่ใช่การเสี่ยงโชควัดดวงหรือซื้อขายไปตามอารมณ์ ไปตามข่าวลือ เทรดเดอร์มืออาชีพจะต้องมีแผนการเทรด มีการวางแผนการเทรดล่วงหน้าก่อนเข้าไปซื้อขายในตลาดเสมอ เพราะการพัฒนาระบบเทรด การสร้างแผนการเทรดขึ้นมาจะทำให้เรา รู้ว่าควรจะตัดสินใจรับมือกับพฤติกรรมราคาอย่างไร อย่างน้อยต้องรู้จุดเข้า/จุดออก และการประเมินความเสี่ยง เพื่อคำนวณขนาด position size ที่แน่นอนก่อนเข้าไปเทรด

แผนการเทรดจำเป็นเพราะเราอาจจะพบเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิด เจอเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าไม่มีแผน หรือปล่อยให้ทุกอย่างตัดสินใจไปตามอารมณ์ ความผิดพลาดก็จะเกิดขึ้นได้ง่าย และนำมาซึ่งการขาดทุนสูญเสียเงินหนัก

5. มีวินัย

เมื่อพัฒนาแผนการเทรด หรือระบบเทรดขึ้นมาแล้ว สิ่งสำคัญคือเทรดเดอร์ต้องมีวินัยในการบังคับตัวเองให้ตัดสินใจลงมือทำตามแผนให้ได้ แน่นอนว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆในข้ามคืน โดยเฉพาะมือใหม่ ประสบการณ์น้อย เนื่องจากราคาสินค้าที่เคลื่อนไหวไปมาแต่ละวัน บวกกับข้อมูลข่าวสารที่ได้รับมีผลต่ออารมณ์ของเทรดเดอร์ อาจจะทำให้เกิดความโลภ ความกลัว การตัดสินใจไปตามอารมณ์เกิดขึ้นได้ง่าย

แม้กระทั่งเรื่องของการจดบันทึกผลการเทรด งานพิเศษที่เป็นกิจวัตรหลังตลาดปิดที่เทรดเดอร์ต้องทำเพื่อทบทวนการเทรดของตัวเอง สิ่งเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของกระบวนการฝึกฝนที่ต้องทำต่อเนื่องทำทุกวันในระยะเวลายาว อาจจะไม่เห็นผลอันสั้น จึงทำให้น้อยคนที่จะสามารถมีวินัยบังคับตัวเองให้ทำต่อเนื่องจนสำเร็จได้

ดังนั้น คุณ  Mike Bellafiore จึงย้ำให้เห็นหลายครั้งว่า การเป็นเทรดเดอร์อาชีพจำเป็นต้องฝึกเรื่องของวินัย การบังคับให้ตัวเองลงมือทำตามแผนตามระบบเทรด เอาชนะจิตใจของตัวเรา

ทั้ง 5 ข้อนี้เป็นแนวทางการพัฒนาไปสู่การเป็นเทรดเดอร์อาชีพ ที่คุณ  Mike Bellafiore ถ่ายทอดเอาไว้ในหนังสือ ที่ผมนำมาฝากให้ได้เรียนรู้กัน แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนในหนังสือ One Good Trade ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับการเป็นเทรดเดอร์ใน prop trading desks รวมถึงกรณีตัวอย่างที่ผู้เขียนยกเป็นเรื่องเล่าตอนย่อยๆ ทำให้เราสามารถใช้เป็นแนวทางการศึกษาพัฒนาตัวเองให้ไปสู่การเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบสำเร็จได้ ถ้าสนใจลองหาหนังสือมาอ่านกันนะครับ…
Cr: ลืมบันทึก

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

หุ้นขึ้นเครื่องหมาย?

เล่นหุ้นมือใหม่ต้องรู้จักเครื่องหมายต่าง ๆ ที่มีในระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย ว่าแต่เครื่องหมายเหล่านี้หมายถึงอะไรกันนะ

มือใหม่หัดเล่นหุ้นอาจจะสงสัยว่า ทำไมบางวันมีหุ้นบางตัวขึ้นเครื่องหมายภาษาอังกฤษ เช่น XD XR XM H SP อยู่ข้างชื่อหุ้น แล้วเครื่องหมายเหล่านั้นคืออะไรล่ะ เกี่ยวกับเราไหม ถ้าอยากรู้ วันนี้ กระปุกดอทคอม จะพาไปรู้จักกับเครื่องหมายเหล่านี้ ซึ่งนักลงทุนมือใหม่ต้องเรียนรู้และจดจำให้ดีเลยค่ะ เพราะถ้าเป็นหุ้นที่เรามีอยู่ นั่นหมายถึงผลประโยชน์ที่เราจะได้หรือไม่ได้ด้วย

ก่อนอื่นมารู้จักกับเครื่องหมายตระกูล X กันก่อน เป็นเครื่องหมายที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แสดงไว้บนหลักทรัพย์นั้นเป็นเวลาล่วงหน้า 3 วันทำการก่อนวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหลักทรัพย์ ดังนั้น เมื่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ติดเครื่องหมายประเภทดังกล่าวไว้บนหลักทรัพย์ใด หมายความว่า เราจะไม่ได้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของหุ้นตัวนั้นในวันที่ขึ้นเครื่องหมาย

แล้วทำไมถึงต้อง 3 วันทำการล่ะ? เหตุผลก็เพราะปกติเวลาเราส่งคำสั่งซื้อหุ้น เราจะต้องจ่ายเงินในวันทำการที่ 3 เมื่อเราจ่ายเงินแล้ว ชื่อของเราถึงจะปรากฏอยู่ในรายชื่อผู้ถือหุ้น นั่นจึงต้องขึ้นเครื่องหมายก่อนวันปิดสมุดทะเบียน 3 วันทำการนั่นเอง

ทีนี้มาดูกันว่า มีเครื่องหมายอะไรบ้าง แล้วแต่ละตัวหมายถึงอะไร

XD (Excluding Dividend) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล

XR (Excluding Right) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิจองซื้อหุ้นออกใหม่

XW (Excluding Warrant) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหลักทรัพย์

XS (Excluding Short-term Warrant) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหลักทรัพย์ระยะสั้น

XT (Excluding Transferable Subscription Right) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่ โอนสิทธิได้

XI (Excluding Interest) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับดอกเบี้ย

XP (Excluding Principal) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับเงินต้นที่บริษัทประกาศจ่ายคืนในคราวนั้น

XA (Excluding All Privileges) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิทุกประเภทที่บริษัทประกาศให้ในคราวนั้น

XM (Exclude Meetings) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่มีสิทธิเข้าประชุมผู้ถือหุ้น

XN (Exclude Capital Return) : ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่มีสิทธิได้รับเงินคืนทุน

เห็นแล้วอย่าเพิ่งงงไปค่ะ ถ้าอธิบายง่าย ๆ ก็คือ หากเราอยากได้สิทธิประโยชน์ของหุ้นตัวนั้น เราจะต้องซื้อหุ้นก่อนวันที่จะขึ้นเครื่องหมายนั่นเอง เช่น หุ้น AAA ขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2557 หมายความว่า หากเราซื้อหุ้น AAA ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2557 เราจะไม่ได้รับเงินปันผลจากหุ้น AAA ในรอบนี้ แต่ถ้าเราต้องการเงินปันผล เราก็ต้องซื้อหุ้น AAA หรือมีหุ้น AAA ก่อนวันที่ 30 กรกฎาคม 2557 นั่นเอง

ส่วนที่ว่าหุ้นตัวไหนจะขึ้นเครื่องหมายอะไร วันไหนบ้างนั้น สามารถตรวจสอบได้จาก ปฏิทินหลักทรัพย์ (ข้อมูลสิทธิประโยชน์) ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้เลย

นอกจากเครื่องหมายที่ขึ้นต้นด้วย X แล้ว ก็ยังมีเครื่องหมายอื่น ๆ อีกที่ต้องรู้ คือ

H ย่อมาจาก Trading Halt หมายถึงการหยุดซื้อขายหุ้นชั่วคราว สาเหตุอาจเป็นเพราะมีข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น แต่ทางบริษัทยังไม่ได้แจ้งมายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงสั่งให้หยุดซื้อขายไว้ก่อน เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้น หรือกรณีที่มีข้อมูลบางอย่างอยู่ระหว่างรอการเปิดเผย หรือมีเหตุอื่นที่อาจกระทบต่อการซื้อขายอย่างร้ายแรง ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องสั่งให้หยุดการซื้อขายไว้ก่อน

SP ย่อมาจาก Trading Suspension หมายถึง การห้ามซื้อขายหุ้นเป็นการชั่วคราว เมื่อเกิดกรณีเช่นเดียวกับการขึ้นเครื่องหมาย H แต่บริษัทยังไม่สามารถชี้แจงหรือเปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ หรืออาจฝ่าฝืน ละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย รวมทั้งไม่ส่งงบการเงินให้ภายในเวลากำหนด ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงจะขึ้นเครื่องหมาย SP เพื่อหยุดการซื้อขายหุ้นชั่วคราว

NP ย่อมาจาก Notice Pending หมายถึง บริษัทมีข้อมูลที่ต้องรายงานตลาดหลักทรัพย์และอยู่ในช่วงรอข้อมูลจากบริษัท

NR ย่อมาจาก Notice Received หมายถึง ตลาดหลักทรัพย์ได้รับการชี้แจงข้อมูลจากบริษัทนั้นแล้ว

NC ย่อมาจาก Non-Compliance หมายถึง บริษัทที่เข้าข่ายการถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์

ST ย่อมาจาก Stabilization หมายถึง หุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีการซื้อหุ้นเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกิน

ได้ทำความรู้จักกับสัญลักษณ์เหล่านี้ก็จดจำกันไว้นะคะ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์ในการลงทุนของเราโดยตรงเลย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ตลาดทุน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เว็บไซต์ Kapook

cahttradingview

AAPL ชาร์ต โดย TradingView