วันพุธที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ข้อคิดจากการลงทุนในหุ้นมา 14 ปีคัดลอกเพิ่นมา

ข้อคิดจากการลงทุนในหุ้นมา 14 ปี
1. พอร์ตเล็กมีโอกาสทำกำไรได้สูงกว่าพอร์ตใหญ่
2. ไม่ว่าจะ VI หรือเทคนิก จะเล่นสั้นหรือยาว ถ้าศึกษารู้จริงล้วนสามารถทำกำไรสูงๆจนเป็นอิสระทางการเงินได้ทั้งนั้น
3. ถ้าต้องการจะเป็นอิสระทางเวลา และสบายใจไม่ต้องเครียดทุกๆวัน ควรลงทุนระยะยาว มองที่มูลค่ากิจการไม่ใช่ราคา
4. การลงทุนแบบเน้นคุณค่า (VI) กับการถือหุ้นยาวไม่เหมือนกัน การติดดอยไม่เรียกว่าการลงทุนแบบ VI ถ้าพื้นฐานแย่ลงก็ไม่ควรกอดหุ้นไว้
5. อดีตที่สวยหรูของบริษัท ไม่ได้รับประกันว่าอนาคตจะต้องดีด้วย การติดตามการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจเสมอๆเป็นสิ่งจำเป็น
6. ไม่มีใครรู้จริง ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ราคาหุ้น สภาวะตลาด หรือแม้แต่ผลประกอบการได้อย่างแม่นยำทุกครั้งไป สิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ การเผื่อใจวางแผนเตรียมรับมือกรณีฉุกเฉินเป็นสิ่งจำเป็น
7. หุ้นขึ้นแรงๆมีทุกวัน อย่าไปไล่ซื้อ เรารวยได้โดยไม่จำเป็นต้องไปมีส่วนร่วมในหุ้นทุกตัวที่ขึ้นแรง
8. ไม่มีงานสัมนาไหนที่จะเปลี่ยนคนให้ลงทุนเก่งขึ้นได้จริงแบบทันทีทันใด ดังนั้นอย่าเสียเงินแพงๆไปอบรมสัมนาหุ้นเพื่อหวังรวยเร็ว
9. การลงทุนคือการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่วิ่งร้อยเมตร ไม่มี Short cut ไม่มีวิธีรวยเร็ว มีแต่ต้องทุ่มเทศึกษา สะสมความรู้และประสบการณ์เป็นเวลาหลายๆปี ผลตอบแทนที่ได้จะแปรผันตามความขยันทุ่มเทที่เราใส่ลงไป
10. การแลกเปลี่ยนความเห็นกับเพื่อนนักลงทุนจะช่วยให้มีโอกาสพบบริษัทที่น่าสนใจมากขึ้น ดังนั้นควรจะหาโอกาสไปเยี่ยมชมกิจการ หรือสัมนาฟรีบ้าง เพื่อเพิ่มความรู้และทำความรู้จักเพื่อนนักลงทุนใหม่ๆ
11. ภาพใหญ่ของธุรกิจสำคัญกว่าภาพเล็ก การเข้าไปจ้องมองระยะใกล้ๆในภาพเล็กเพียงอย่างเดียวอาจจะทำให้มองไม่เห็นภัยคุกคามที่กำลังจะมาถึง ตรงกันข้ามถ้ามองภาพใหญ่ออก ถึงภาพเล็กจะมองผิดไปบ้างก็ไม่ได้เสียหายนัก
12. ซื้อหุ้นคือซื้ออนาคต ถ้ามองอนาคตไม่ออกก็ไม่ควรซื้อ
13. หุ้นขนาดใหญ่ไม่ได้แปลว่าเป็นหุ้นพื้นฐานดี
14 . หุ้นราคาต่ำบาทไม่ได้แปลว่าถูกกว่าหุ้นราคาหลักพัน ความถูกความแพงต้องเทียบราคาหุ้นกับมูลค่ากิจการที่ควรเป็น
15. จะลงทุนให้ได้ผลตอบแทนดีต้องลงทุนในหุ้นเติบโต การลงทุนในหุ้นที่เน้นปันผลแต่กำไรในอนาคตไม่เติบโตจะไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้
16. หุ้นของกิจการที่ดี แข็งแกร่ง และเติบโตสูงๆ อาจจะให้ผลตอบแทนที่แย่ได้หากซื้อมาด้วยราคาที่แพง
17. ถึงแม้จะถือหุ้นครั้งละไม่กี่เดือน แต่ก็ต้องมองภาพอนาคต 2-3 ปีข้างหน้าให้ออก
18. อ่านบทวิเคราะห์ ไม่ต้องสนใจราคาเป้าหมาย ส่วนใหญ่เชื่อไม่ได้ ให้เลือกดูเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท และนำมาประเมินราคาหุ้นที่เหมาะสมเอง
19. ยิ่งโลภยิ่งจน
20. "กล้าเมื่อคนส่วนใหญ่กลัว และกลัวเมื่อคนส่วนใหญ่กล้า" พูดง่ายแต่ทำยาก เพราะคำว่า "ส่วนใหญ่" นั้นวัดยาก

ฝากไว้ด้วยนะจ้า😁😁
เครดิต T-DED

วันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ประโยชน์ของงบดุล

#ประโยชน์ของงบดุล ตอน #ลูกหนี้การค้า
.
ลูกหนี้การค้า เกิดจากการขายเชื่อคือการให้สินค้ากับไปก่อน และจะเรียกเก็บเงินค่าสินค้านั้นในอนาคต ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายการให้เครดิตของแต่ละบริษัท โดยรายการลูกหนี้การค้าที่แสดงในงบดุลนั้นที่เราเห็นกันได้หักรายการค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ( หนี้ที่บริษัทคาดการณ์ว่าจะไม่สามารถเก็บได้ในอนาคต ซึ่งเป็นการประมาณการขึ้นส่วนใหญ่ใช้ประสบการณ์ในอดีตประกอบกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่างบการเงินที่เราอ่านนั้นมีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญมากแค่ไหน ให้เราเข้าไปดูหมายเหตุงบการเงินได้เลยครับ )
.
#ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ส่วนใหญ่มักจะประมาณการจากยอดขาย ไม่ก็ประมาณจากยอดลูกหนี้การค้ารวม
.
ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่บริษัทคาดการณ์ไว้ จะนำมาหักลบกับ หนี้สงสัยจะสูญที่เกิดขึ้นจริง ถ้าหนี้ที่เกิดขึ้นจริงสูงกว่า บริษัทต้องตั้งสำรองเพิ่มและบริษัทจะมีค่าจ่ายเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย กลับกันถ้าหนี้สูญที่ออกมาตอนสิ้นงวด ต่ำกว่าค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจะกลับรายการที่ตั้งสำรองไว้กลับมาเป็นบวก นี้เป็นผลให้บริษัทมีเงินสดมากขึ้น เพราะบริษัทสำรองเงินนั้นมากเกินไปนั้นเอง ( จะแสดงอยู่ใน CFO )
.
สรุป ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ-สงสัยแต่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง ดังนั้นเป็นค่าประมาณการขึ้นมาแต่มีกับสินทรัพย์ทำให้สินทรัพย์โดยรวมลดลง แต่หนี้สูญคือเกิดขึ้นแล้วบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุน  (มีผลต่อกำไรของบริษัท )
.
#อธิบายเสริมแยกธุรกิจ : ลูกหนี้การค้าแต่ละธุรกิจ
.
#ถ้าเป็นธุรกิจค้าปลีก สินค้ามักราคาถูก และเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิต การขายมักจะขายเป็นเงินสด ดังนั้นลูกหนี้การค้าจะน้อย เช่น CPALL,HMPRO,ROBINS,BEATY
.
#ถ้าเป็นธุรกิจค้าส่ง ขายยกลัง ยกแพ็ค มักจะมีลูกหนี้การค้าเยอะเพราะลูกค้าจะสั่งที่ละมากๆ มักจะขายให้กับยี่ปั้ว ซาปั้ว เช่น CPF,TCCC,MEGA,ICHI,TKN
.
#ถ้าเป็นธุรกิจในการให้บริการ เช่น โรงพยาบาล โรงแรม จะมีลูกหนี้การค้าน้อยมาก เนื่องจากสินค้าหลักคือการให้บริการ
เช่น BH,BDMS,ERW,CENTEL ยกเว้นธุรกิจธนาคารเป็นธุรกิจในการให้บริการเหมือนกันแต่ ลูกหนี้ของธนาคารคือ ผู้ต้องการใช้เงินหรือผู้กู้นั้นเอง ดังนั้นธุรกิจประเภทธนาคารหรือสถานบันการเงินจะมีลูกหนี้มากเป็นพิเศษ แล้วแต่ cycle ธุรกิจ เศรษฐกิจดีคนกู้มาก เศรษฐกิจแย่คนก็กู้น้อย และขึ้นกับนโยบายภาครัฐเป็นสำคัญ การตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของกิจการถือว่ามีความสำคัญมากเพราะมีผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ เนื่องจากธุรกิจหลักที่มาซึ่งรายได้คือการปล่อยกู้ อย่างที่เราเห็นกันมักจะเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ธนาคารต้องตั้งสำรองระหว่างการมากขึ้น จากปัญหาของบริษัทที่กู้เงินมีปัญหา เพราะอาจจะไม่สามารถเก็บหนี้ได้นั้นเอง และมีผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรในงวดบัญชีนั้น
.
#ถ้าเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หรือก่อสร้างลูกหนี้ก็จะน้อยหรือถ้ามีมักจะเป็นลูกหนี้การค้าของบริษัทในเครือ เนื่องจากสินค้าที่ขายมีราคาสูง และในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะใช้หลักบัญชีรับรู้รายได้ทั้งจำนวน ซึ่งไว้จะอธิบายต่อนะครับ มันจะยาวเกินไป จบแค่สินทรัพย์หนี้สินไปก่อน เพราะจะมีเรื่องของ Presale และ Backlog เข้ามาเกี่ยวข้อง
.
#ถ้าเป็นธุรกิจก่อสร้าง ส่วนใหญ่มักจะเป็น B2G ไม่ก็ B2B รับงานเป็นช่วงจากบริษัทใหญ่อีกต่อ แบบนี้ก็มักจะไม่มีลูกหนี้การค้าหรือมีน้อย เพราะไม่ได้ขายสินค้า แต่เป็นการก่อสร้างนั้นเอง
หลักการสำคัญในการวิเคราะห์ลูกหนี้คือ เราต้องรู้ก่อนว่าลูกค้าของบริษัทเป็นใคร เป็นธุรกิจ ( B2B ) หรือเป็นผู้บริโภคหน่วยสุดท้าย ( B2C ) หรืออาจจะเป็นรัฐบาลก็ได้ในกรณีของธุรกิจก่อสร้าง ( B2G )  แล้วเจอกันใหม่ครับ

#ถ้าเป็นธุรกิจพลังงาน ส่วนใหญ่จะเป็น B2B ไม่ก็ B2G ลูกหนี้จะมากหรือจะน้อยนั้นขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ เพราะถ้าเศรษฐกิจธุรกิจต่างๆย่อมต้องการเพิ่มกำลังการผลิต ความต้องการใช้พลังงานก็มากตามไปด้วย ดังนั้นลูกหนี้ก็เพิ่มตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น ลูกหนี้อยู่ในระดับกลางไม่มากไม่น้อย ถ้ายอดขายดี แต่ลูกหนี้น้อย ถือว่าอำนาจในการต่อรองของบริษัทนั้นสูง อาจจะเป็นเพราะมีเทคโนโลยีพิเศษที่แตกต่างจากคู่แข่ง แต่ในไทยไม่มีนะครับ คู่แข่งพอๆกันหมดสำหรับน้ำมัน แต่ถ้าเป็นพลังงานทดแทนการแข่งขันยังน้อย ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนภาครัฐเป็นสำคัญ
.
#หลักการดูงบการเงินในส่วนของหนี้สินของผมคือ จะให้ความสำคัญก็ต่อเมื่อบริษัทนั้นมีรายการลูกหนี้การค้าที่มีนัยสำคัญต่องบการเงิน จะเข้าไปดูรายละเอียดในหมายเหตุงบการเงินว่าลูกหนี้ส่วนใหญ่ของกิจการ เป็นลูกหนี้เก่า หรือ ลูกหนี้ใหม่อย่างไร นโยบายในการให้เครดิตเหมาะสมและทำได้จริงไหม การตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้เป็นไปตามปกติหรือไม่ และนำไปเปรียบเทียบหนี้สูญที่เกิดขึ้นจริง ยิ่งบริษัทใช้เวลาในการเก็บหนี้นานยิ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องของสภาพคล่องได้ง่าย เป็นเพราะบริษัทอาจจะขายสินค้าได้จริง แต่กว่าจะได้เงินนาน จึงทำให้ต้องก่อภาระผูกพันธ์ในระยะสั้น ซึ่งถ้าหาได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าหาไม่ได้มีปัญหาแน่นอน
.
#Financialsecrets #ความลับทางการเงินที่คุณต้องรู้
.
ความลับทางการเงิน - FinancialSecrets

cahttradingview

AAPL ชาร์ต โดย TradingView