นิทานการตลาด ตอนที่ 5
หลังจากประกาศผลสอบได้เข้าเรียนเป็นนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ-ภาคค่ำ ในมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ผ่านพ้นไป ผมก็เริ่มเข้าไปรายงานตัวเพื่อเริ่มต้นเป็นนักศึกษาใหม่ ตอนนั้นผมรู้สึกภูมิใจในตัวเองอย่างมาก ที่สามารถพกพาความโง่ ไม่เอาถ่าน มาสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจนได้ และผมได้สาบานตนในวันรายงานตัวนั้นเลยว่า นับจากวันนี้ไปผมจะตั้งใจเรียน จะขยันขันแข็งและจะต้องเรียนให้ได้ดีที่สุด
ในวันรายงานตัวเข้าเรียนวันแรกนี้เอง อาจารย์ที่ปรึกษาได้เข้ามาแนะนำสาขาที่นักศึกษาทุกคนมีสิทธิ์เลือกเรียน สำหรับนักศึกษาภาคค่ำจะมีเพียง 2 สาขาให้เลือกเรียนเท่านั้นคือ สาขาการตลาด และสาขาบริหารธุรกิจทั่วไป ตอนนั้นผมยัง งง งง ตั้งตัวไม่ทัน แต่ก็นึกขึ้นได้ว่า ตัวเองเคยพลาดมาแล้วครั้งหนึ่งตอนเลือกเรียนสาขาบัญชีที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต คราวนี้จะต้องไม่พลาดแล้ว ขอฟันธง ตัดสินใจเรียนสาขาการตลาดนี่ล่ะ เพราะเคยได้ยินว่าสาขานี้เรียนสนุก และเรียนไม่ยาก
และนี่ถือเป็นปฐมบทสู่ภาควิชาการตลาดที่แท้จริงของผมนั่นเอง การเริ่มต้นชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผมได้พลิกชีวิตจากคนไม่เอาถ่าน เหลวไหล ไม่เคยใส่ใจการเรียน ผมกลายเป็นคนขยันเรียน ไม่เคยขาดเรียน ทำการบ้านทุกข้อที่อาจารย์สั่งให้ทำ และอ่านหนังสือแทบตลอดเวลาที่ตัวเองว่าง ผมใส่ใจการบรรยายของอาจารย์ทุกวิชาอย่างตั้งใจที่สุด
แต่ด้วยพื้ันฐานในมัธยมต้นและในระดับอาชีวศึกษาของผมนั้น มันยอดแย่เสียเหลือเกิน ทำให้การขยันสุดขีดของผม ก็ยังเป็นไปอย่างทุลักทุเลอย่างมาก หลายๆ วิชาที่คิดว่ามันจะน่าจะเรียนง่าย แต่ด้วยว่าพื้นฐานทางการศึกษาของผมแย่มาก ทำให้ภาวะวิกฤติในปีแรก ผมได้ผลการเรียนเพียง 2.17 เท่านั้น ซึ่งถือว่ารอดมาหวุดหวิดอีกตามเคย
ผมเริ่มปรับตัวได้ดีขึ้นมาขึ้นเป็นนักศึกษาปี 2 พร้อมๆ กับผลการเรียนดีขึ้นเป็น 2.47 และดีขึ้นเป็น 2.75 จนกระทั่งถึง 3.2 ในเทอมต่อๆ มา ซึ่งถือว่าผลการเรียนของผมมีอัตราที่สูงขึ้นและค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับตลอดทุกภาคการศึกษาเลยทีเดียว
ด้วยความที่ตัวเองเป็นนักศึกษาภาคค่ำ ที่จะเรียนเพียงจันทร์-ศุกร์ เฉพาะเวลา 17.00-20.00 น. ทำให้ตอนกลางวันผมมีเวลาว่างอย่างมาก ทำให้ผมตัดสินใจไปมหาวิทยาลัยตั้งแต่เช้าทุกวัน แล้วไปอ่านหนังสือในห้องสมุดบ้าง ไปเข้าชมรมต่างๆ ที่น่าสนใจบ้าง ซึ่งเป็นผลทำให้มีเพื่อนใหม่มากมายกว่าใครๆ และผมก็ค่อยๆ เข้าไปช่วยในชมรมบางชมรม จนสามารถขึ้นเป็นประธานชมรมในขณะที่เรียนชั้นปีที่ 3
การเรียนที่ดีขึ้น เพื่อนฝูงที่มากขึ้น สังคมที่กว้างขวางขึ้น ประกอบกับตอนปลายของการเรียนปี 2 ผมได้พลิกชีวิตครั้งยิ่งใหญ่ สามารถสอบชิงทุน โครงการยุวฑูตไทยขององค์การยูเนสโก้ เข้าร่วมสัมมนาเยาวชนนานาชาติ ที่ประเทศเกาหลี ก็ยิ่งทำให้ผมกลายเป็นคนที่โดดเด่นขึ้นมาตามสมควร
ผลการเรียนวิชาต่างๆ ในภาควิชาการตลาดของผม ได้เลื่อนขึ้นมาอยู่ในระดับแถวหน้า มีเกรด A หรือเกรด 4 โผล่มาให้เห็นหลายวิชา พร้อมๆ กันนั้นผมก็เริ่มเข้าไปมีบทบาทในกิจกรรมของภาควิชาการตลาดนะดับผู้นำ ในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป หรือผู้จัดการใหญ่ ในบริษัทจำลอง ในมหาวิทยาลัยหอกา่รค้าไทย และนั้นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ของการก้าวสู่อาชีพนักการตลาดของผมมาจนถึงทุกวันนี้
เขียนโดย อาจารย์วรกร ชำนาญไพศาล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น